5 ข้อควรระวังก่อนทำสัญญาก่อสร้าง

สัญญาการก่อสร้าง

งานก่อสร้างเป็นงานที่มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ดังนั้นในการทำข้อตกลงต่าง ๆ ผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาไม่ควรคุยกันด้วยปากเปล่า เพราะเมื่องานก่อสร้างมีปัญหา สัญญาการก่อสร้างจะสำคัญขึ้นมาทันที เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการระบุขอบเขตและลักษณะของเนื้องาน จึงควรทำสัญญาก่อสร้างแบบลายลักษณ์อักษรขึ้น เพื่อบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็นทั้งหมดลงในสัญญาเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย และป้องกันการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเนื้อหาของงาน แต่ก่อนที่จะทำสัญญา มาดูกันว่ามีข้อควรระวังอะไรบ้างสำหรับการทำสัญญาก่อสร้าง

5 ข้อควรระวังก่อนทำสัญญาก่อสร้าง

1.สัญญาจ้างมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน 

ผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องอ่านตัวสัญญาก่อสร้างอย่างละเอียด และเมื่ออ่านข้อไหนแล้วเกิดความสงสัย หรือข้อความดูเป็นการรวบรัดจนเกินไป แนะนำให้พูดคุยให้ชัดเจนทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนเซ็นสัญญาเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจนำมาซึ่งความเสียหายในงานก่อสร้างได้

2. เปอร์เซ็นต์การจ่ายเงินแต่ละงวด เหมาะสมกับปริมาณงานหรือไม่ 

ผู้ว่าจ้างควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบจำนวนการจ่ายเงินในแต่ละงวดว่าเหมาะสมกับปริมาณงานหรือไม่ เพราะถ้ามีการเบิกเงินเยอะกว่าปริมาณงานในงวด ก็ควรสอบถามกับทางผู้รับเหมาก่อนการเซ็นสัญญา ว่าเหตุใดถึงมีการเบิกเงินเยอะ  ตัวอย่างเช่น ผู้รับเหมาก่อสร้างขอเบิกเงิน 30% ในการซื้อของงวดแรก ๆ ที่มีรายการไม่เยอะ ผู้ว่าจ้างควรสอบถามหาที่มาที่ไปของเงินที่เบิกว่าทำไมถึงเบิกเงินเยอะกว่าปริมาณของงาน 

3. ขั้นตอนการก่อสร้างกับระยะเวลา สมเหตุสมผลหรือไม่ 

ในสัญญาการก่อสร้าง อันดับแรกที่ผู้ว่าจ้างต้องให้ความสำคัญ คือ ในสัญญาต้องระบุ วัน เวลา การก่อสร้างให้ชัดเจน ว่าจะเสร็จวันไหน ส่งมอบงานวันไหน รวมถึงต้องตรวจสอบระยะเวลากับการทำงาน และเนื้องาน ว่ามีความเหมาะสมกับที่ระบุไว้ในสัญญาหรือไม่ และการลงรายละเอียดของงานยังเป็นตัวกำหนดให้ผู้รับเหมาทำงานให้เสร็จตามระยะเวลาที่แจ้งไว้ในสัญญาอีกด้วย

ผู้รับเหมาก่อสร้าง

4.รูปแบบและเงื่อนไขการรับประกัน ต้องระบุไว้อย่างชัดเจน 

ในสัญญาก่อสร้าง ทั้งผู้ว่าจ้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ควรตกลงกันอย่างชัดเจน ถึงการรับประกันคุณภาพงานหลังการก่อสร้าง ควรระบุลงไปในสัญญาว่าหลังจากการส่งมอบงาน จะมีการรับประกันเป็นระยะเวลากี่เดือน และต้องระบุถึงเงินประกันในสัญญาอย่างชัดเจนด้วย แต่ถ้าจะให้ดีและเกิดความสบายใจกับเจ้าของบ้าน ควรมีการวางเงินประกันแยกส่วนไว้ และมีตัวกลางดูแลจัดการในส่วนนี้ เพราะเมื่องานเกิดปัญหาขึ้นหรือไม่มีคุณภาพตามที่ระบุไว้ในสัญญา เงินประกันที่วางไว้ จะถูกนำมาทำงานของท่านให้สำเร็จอย่างแน่นอน แต่ถ้างานไม่มีปัญหา ผู้รับเหมาก็จะได้เงินค่าประกันคืนตามที่ตกลง

5.สิทธิในการยกเลิกสัญญา ต้องมีระบุไว้ทั้ง 2 ฝั่ง 

เรื่องการยกเลิกสัญญาการก่อสร้าง ควรมีการระบุพฤติกรรมของทั้งฝั่งลูกค้า และผู้รับเหมา ที่อาจส่งผลต่อการก่อสร้าง ที่ทำให้งานมีปัญหา หรืองานล่าช้า โดยระบุลงไปในสัญญาว่า หากมีฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด ทำผิดเงื่อนไขที่ระบุไว้จนเกิดความเสียหาย อีกฝ่ายมีสิทธิยกเลิกสัญญาและเรียกร้องค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในสัญญา ดังนั้น การระบุในสัญญาก่อสร้างอย่างชัดเจนจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างมีระเบียบและราบรื่นทั้ง 2 ฝ่าย

และทั้งหมดนี้ คือ 5 ข้อควรระวังก่อนทำสัญญาก่อสร้าง ที่ท่านเจ้าของบ้านต้องรู้ และควรศึกษาให้ดีก่อนการทำสัญญา เนื่องจากในงานก่อสร้างนั้นมีรายละเอียดที่เยอะมากจนจำแทบไม่ไหว ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะมีการทำสัญญาออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร  

แต่ถ้าท่านเจ้าของบ้านไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาการก่อสร้าง และไม่อยากมานั่งเครียดเมื่อมีปัญหา ให้เราเป็นตัวกลาง คอยดูแลและจัดการส่วนนี้ให้คุณได้ เพราะเราให้ความสำคัญกับสัญญาการก่อสร้างก่อนเริ่มงาน และมีผู้รับเหมาฝีมือดีกว่า 2,000 ราย มีระบบป้องกันการทิ้งงาน และการประกวดราคาตามมาตรฐาน โปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังมีทีมวิศวกรให้คำปรึกษาเคียงข้างคุณตลอดการทำงาน หาผู้รับเหมาคุณภาพ หาได้ที่ BEAVERMAN แพลตฟอร์มผู้รับเหมาก่อสร้างอันดับ 1